ตามงานเดี่ยวของ Steven Tyler มาตั้งแต่ปี 2015 กับซิงเกิ้ล Love Is Your Name แต่เพิ่งได้สำเร็จความใคร่ตอน ก.ค. 2016 ที่ We’re All Somebody From Somewhere วางแผง
ราคาค่าซีดีอิมพอร์ตแพงเหลือร้าย (700 กว่าบาท) และแผ่นเสียงเวลานั้นยังไม่หลุดออกมาให้ตลาดวางจำหน่าย ก็จำเป็นต้องรูดซิบกางเกงเก็บการระบายความใคร่แบบจัดหนักไว้ก่อน
ดิจิตัลดาวน์โหลด คือที่พึ่งเดียว กระทั่ง ‘เค เมอร์รี่คิง’ แห่งร้านเฮฟเว่นแอนด์เฮลป์สาขารถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร จัดให้ปลาย ค.ศ. 2016 – 21/12/59 (คนนี้ Making Dream Come True ให้ผมมาตลอดเวลาที่โดดเข้าโลกแผ่นเสียง – แต่ไม่เคย Make Love – HAHA)
ความฟินระดับฟ้าถล่มแผ่นดินทลายสึนามิโถมทับจึงเกิดในค่ำคืนที่ยังไม่สมควรเปิดเบียร์ฉลอง การรอคอยเมื่อมันมาถึงอะไรๆ ก็ดีไปเสียหมดในภาพแรกๆ
ตัวบทเพลงนั้นสัมผัสมาก่อนจากดิจิตัลดาวน์โหลดจึงไม่ตื่นเต้นกับการฟัง บรรยากาศแห่งความฟินจึงเป็นเรื่องของการลูบคลำ – HAHA
งานเดี่ยวชุดนี้เทียบสถานะได้ไม่ต่างจากงาน Aerosmith ยุคหลัง มีทั้งดีและไม่ดี ไม่ใช่งานสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรปฏิเสธ อย่างน้อยๆ ก็ 7/10
Love Is Your Name ฟังจนติดหูและร้องตามได้แบบไม่ต้องมองเนื้อ ซิงเกิ้ลที่ออกมาก่อนย่อมสร้างความทรงจำไว้ในสมองได้ดีเสมอ
แม้ดนตรีเป็นคันทรี่แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายของวง บทเพลงอย่าง Only Heaven ชวนนึกถึงผลงานวงหลักเอาตัว
อีกหนึ่งซิงเกิ้ลที่ตัดเอามาทำเป็น Lyric Video – Red, White & You นั้นฟังสนุกสนาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Love Is Your Name
Janie’s Got a Gun ซิงเกิ้ลเก่าปี 1989 ก่อนบันทึกลงใน Pump ถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ ลดอารมณ์ความร้าวรานลงมาหน่อยแต่ก็ดูเหมือนยังวิ่งหนีความเจ็บปวดไม่พ้นอยู่ดี
น่าเสียดายที่ซิงเกิ้ลเก่า (It) Feels So Good ไม่รวมอยู่ในงานชุดนี้ อาจเพราะออกมานานตั้งแต่ ค.ศ. 2011
นอกจากที่ว่า ทั้งอัลบั้มมี 15 เพลง
หมายเหตุเอาไว้ 7/10 นั้น ไม่เหมาะกับแฟนเพลง Aerosmith แบบที่จงรักในดนตรีอย่างนั้น แต่ 7/10 นี้เป็นคะแนนสำหรับพวกหลั่งเลือดถวายคำสัตย์แล้วว่าจะติดตามท่านทุกชั่ววัน
คันทรี่ไม่ใช่บลูส์ร็อค ต้องทำใจเอาไว้ก่อน เมื่อเข้าใจก็จะให้คะแนนได้ตามความเหมาะสม
ขึ้นอันดับ 19 บน Billboard 200 ในสัปดาห์แรกวางแผง และขึ้นอันดับ 1 ใน Top Country Albums ของอเมริกา
จึงต้องย้ำว่าเป็นคันทรี่ไม่ใช่บลูส์ร็อค
หรืออีกเหตุผลที่หากจะให้คะแนนมากกว่านั้น คงเพราะ… “หวังในลูกสาว Liv Tyler ก็ต้องสนับสนุนงานพ่อตา” HAHA
ก่อนจบขอเรื่องทิ้งท้ายดราม่าเล็กๆ ไว้ให้อ่านพอหอมปากหอมคอ Brad Whitford มือกีตาร์ Aerosmith บอกไม่ปลื้มงานเดี่ยวของวงนัก เพราะช่วงที่ Tyler กำลังทำงานชุดนี้ เขาบอกปฏิเสธการทัวร์ของ Aerosmith เพื่อทำงานของตัวเอง
“เขาคิดว่างานเดี่ยวของเขาจะไปได้ดี แต่เขารู้ไหมว่าแท้จริงแล้วแฟนเพลงอยากฟังเขาร้องเพลงในนามของ Aerosmith มากกว่า” Whitford กล่าว
ในนาม Aerosmith ผลงานชิ้นล่าสุด คือ Music from Another Dimension! วางแผงเมื่อปี 2012 ปัจจุบัน Steven Tyler กลับมาทัวร์กับ Aerosmith ตามปกติ
เอกวิทย์ เตระดิษฐ์
นักเขียน บรรณาธิการอิสระ ชอบฟังเสียงธรรมชาติร้องเพลงในป่าใหญ่สลับกับดนตรีเฮฟวี่เมทัลผ่านลำโพงโลหะหนัก กำลังเขียนบล็อกบันทึกถึงเพลงที่ฟังที่ nomusicidie.wordpress.com
