ในยุค 90s ถึงต้น 2000 คงไม่มีนักฟังเพลงหนักกะโหลกคนไหนไม่เคยผ่านหูเพลงของวง “โรงงานสยอง” กว่า 35 ปีเเล้วที่พวกเขาโลดแล่นอยู่ในแวดวงเมทัล เเม้จะมีปัญหาจนวงเกือบแตกหลายครั้ง แต่ Dino (สมาชิกคนเดียวที่เหลืออยู่) ก็สามารถประคับประคองวงไปได้ จนในที่สุดวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2567 พวกเขาก็มาเปิดการแสดงที่ไทยครั้งเเรก สำหรับคนที่ตามวงนี้มาเกิน 25 ปี แบบผม ถือว่าเป็นงานที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด
ไลน์อัพที่มาวันนี้นอกจากสมาชิกหลักอย่าง Dino แล้วก็มี Milo Silvestro นักร้องเงาเสียงของ Burton C. Bell เจ้าของน้ำเสียงเอกลักษณ์ Pete Webber (กลอง) สมาชิกวง Havok ซึ่งเคยมาไทยครั้งหนึ่งเเล้ว และสมาชิกคนล่าสุดที่มาเสียบเเทน Tony Campos ซึ่งมาร่วมทัวร์ไม่ได้ คือ Ricky Bonazza จากวง Butcher Babies
นอกจาก Fear Factory แล้วงานนี้ยังมีวงไทยมาเล่นเปิดด้วย 3 วงได้แก่ D-Low, Uppercut และ G6PD เสียดายมากๆที่มาไม่ทันดูสองวงแรก ตอนมาถึง G6PD วงเมทัลจากเชียงใหม่ก็กำลังเล่นเเล้ว นับเป็นวงที่จัดจ้านเรื่องการแสดงเพราะผ่านเวทีมาหลายงาน แถมเร็วๆนี้กำลังจะมีงานเปิดอีพีที่ The Rock Pub วันที่ 18 พฤษภาคมด้วย
หลังจากเบรคประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม เวลา 3 ทุ่มครึ่ง Fear Factory ก็ขึ้นเวที Milo ทักทายแฟนเพลงและบอกว่า “ยินดีต้อนรับสู่ยุคใหม่ของ Fear Factory”ก่อนเปิดฟลอร์ด้วยเพลง Shock ตามด้วย Edgecrusher จากอัลบัม Obsolete ซาวนด์ที่ออกมาดีมากๆครับ หนักหน่วง เคยคิดมานานเเล้วว่าเพลงของ Fear Factory ยุคเเรกมันเต็มไปริฟฟ์กระตุกๆ เหมือนโดนไฟช็อต พอมาฟังสดๆก็ทำให้กลับมารู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง หลังจากจบสองเพลงนี้ Fear Factory ก็ประเคนเพลงใหม่ๆให้เราฟังกัน ตั้งแต่ เพลง Recharger, Powershifter และ Fuel Injected Suicide Machine บรรยากาศตอนนี้ก็โยกๆนัวๆ อาจจะเพราะเป็นเพลงใหม่แฟนรุ่น “ตรงยุค” อาจจะยังไม่อินมาก แต่บรรยากาศความบ้าคลั่งเริ่มหลังจากนี้ เมื่อวงบรรเลงเพลง Linchpin ขึ้นมา คราวนี้คนดูเริ่มแท็กกันเเล้ว แถมร้องตามได้กระหึ่ม ต่อด้วย What Will Become? อีกเพลงจากอัลบัม Digimortal ตามด้วย 2 เพลงจากอัลบัม Archetype คือ Slave Labour และ Archetype (หนึ่งในเพลงโปรดของผม) Milo ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะนักร้องนำคนใหม่ที่มาเเทน Burton เสียงดีไม่ตก ตั้งเเต่ร้องคำราม ไปจนถึงร้องคลีนก็ทำได้ดีมากๆ Ricky มือเบสที่เพิ่งเข้ามาใหม่ก็เล่นได้ดีราวกับว่าเขาอยู่วงนี้มาตลอด ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นตัวตายตัวเเทนของใคร ส่วน Pete นั้นหวดกลองได้ดุมากครับ แค่ดูเขาตีอย่างเดียวก็มันเเล้ว ท้ายสุดคือ Dino ที่พูดคุยแนะนำสมาชิก กล่าวความรู้สึกที่ได้มาเล่นที่ไทยครั้งเเรก ถ้าใครตาม social media ของวงก็น่าจะเห็นว่าเขาประทับใจบ้านเราขนาดไหน
ไฮไลต์จริงๆของโชว์คือ เพลง Martyr จาก Soul of the New Machine เพลงยุคแรกสมัยวงยังมีความเป็นเดธเมทัลอยู่ เพลงนี้ชนกันยับครับ เกิดเป็นวงมอชขนาดใหญ่ จบเพลงพวกนี้พวกเขาก็ส่ง 3 เพลงจากอัลบัม Demanufacture ไม่ว่าจะเป็น Denanufacture, Zero Signal และ Replica คนดูวิ่งชนกันสนุกสนาน จนลืมอายุอานามตัวเองเเล้ว ก่อนจะปิดโชว์ด้วย Resurrection จาก Obsolete โดยตอนจบเพลง Milo กระโดดพุ่งเซิร์ฟลงมาที่คนดู กลายเป็นอีกหนึ่งโมเม้นที่น่าจดจำของงาน
โคตรดี โคตรคุ้ม โคตรมัน เป็นหนึ่งงานที่ห้ามพลาดหากคุณเป็นแฟนของ Fear Factory เพลงฮิตขนมาเล่นครบทุกเพลง เรียกว่า หากเป็นครั้งเดียวที่พวกเขาจะได้มาเล่นก็ “ตายตาหลับ” เเล้ว แม้จะมีสมาชิกหลักแค่ Dino คนเดียว แต่ซาวนด์โคตรแน่น เล่นกันดีมากจริงๆ จนไม่รู้จะติอะไรตรงไหน ซาวนด์คมชัดหนักแน่นสมกับเป็นวงเครื่องจักรของแท้ ทั้งนี้ต้องให้เครดิต BF Sound System ผู้อยู่เบื้องหลังการทำซาวนด์ให้โชว์เมทัลในไทยมาหลายงาน ซาวนด์เลยออกมาสมบูรณ์ขนาดนี้ และก็ต้องขอบคุณผู้จัด Witchhunter Productions ที่นำ Fear Factory มาเล่นที่เมืองไทย ช่วยเติมเต็มความฝันของวัยรุ่นยุค 90s หลายชีวิต
ITP TEAM
กองบรรณาธิการ Into The Pit Online
No Comment