HAKEN – Fauna Expedition Tour: Live In Bangkok 2024

HAKEN – Fauna Expedition Tour: Live In Bangkok 2024

21 April 2024

Mr.FOX Live House

“อิ่มเอมอาหารสมองอร่อยหูอุดมทักษะและความวิปลาส”

ต้องยอมรับนะครับว่าแม้ระยะหลังกลุ่มชนชาวเมทัลบ้านเราจะได้มีโอกาสสัมผัสการแสดงสดของดนตรีหนักกะโหลกจากต่างประเทศมากมายไม่ขาดสายในหลากลายพันธุ์ ทว่าแนวดนตรีอย่าง Progressive Metal สายบริสุทธิ์ทรูแท้ที่ไม่ได้พ่วงแนวอื่น ๆ อย่าง Alternative, Djent, Metalcore ฯลฯนั้นก็แทบไม่ได้มีมาให้ชมให้ฟังกันเท่าไหร่จะมีบ้างก็รุ่นใหญ่หัวหอกของแนวอย่าง Dream Theater โน่นเลยดังนันจะเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์แบบ out of nowhere เหมือนกันเมื่อได้ทราบว่าทางผู้จัดใจกล้าอย่าง Defiance Entertainment จะพา Haken อีกหนึ่งตัวตึงของสายจากเมืองผู้ดีมาเล่นที่บ้านเราสำหรับทัวร์ Fauna Expedition Tour โปรโมทอัลบั้มเต็มชุดใหม่ แถมยังเป็นโชว์แรกของทัวร์เอเชียครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งวงมาได้กว่า 15 ปีอีกต่างหากจึงเป็นโชว์ที่ให้ความรู้สึกพิเศษไม่เบาทีเดียว

หลังจากการแสดงของวงเปิดอย่าง Heartless Knight ในสไตล์ Power Metal (แอดพลาดชมอีกแล้วแต่เห็นเขาว่าดีมากนะและมีคัฟเวอร์ Dream Theater) ต่อด้วยซาวนด์เช็คอีกไม่นานหกหนุ่มจากเกาะอังกฤษก็ขึ้นมายึดสเตจพร้อมเปิดฉากอย่างดุดันด้วย Prosthetic แทร็คเดือดเปิดหัวอัลบั้ม Virusอันอุดมด้วยจังหวะกระแทกหนักหน่วงและริฟฟ์กำยำล่ำสันเหวี่ยงหมัดใส่แบบกระตุจิตกระชากใจปลุกให้ประสาทของทุกคนตื่นด้วยเฮดแบงก์มัน ๆ ก่อนจะดึงเราเข้าสู่โลกล้ำจินตนาการของสิงสาราสัตว์สัญญะแห่งจิตวิญญาณและตัวตนความเป็นมนุษย์ของงานชุดล่าสุด Fauna ไล่ตั้งแต่มนตราของ Nightingale ที่สะกดคนดูได้อยู่หมัดด้วยความพลิ้วแฝงกลิ่นอาย Jazz ที่นำไปสู่ฮุคใหญ่โตทรงพลังก่อนจะค่อย ๆ กลายร่างสู่ทรวดทรงวิปลาสด้วยสัดส่วนจังหวะที่ค่อย ๆ ทวีความบิดเบี้ยวชวนฉงนทั้งยังลุ้นจนแอดแอบเผลอจิกแขนตัวเองจนเจ็บไปเบา ๆ จากนั้นวงจึงพาดำดิ่งลงไปอีกระดับกับ Sempiternal Beings แทร็คซึ่งคลายปมซับซ้อนลงมาเล็กหน่อยแต่ได้หมัดหนัก ๆ บรรยากาศมืดหม่นและความ Emotional สะท้านทรวงมาแทนที่ โดยเฉพาะท่อนฮุคที่แอดโปรดเป็นการส่วนตัวนั้นพอมาอยู่ในบริบทไลฟ์ยิ่งทำเอาแทบคลั่งเลยเชียว ส่วน Beneath the White Rainbow นั้นก็เรียกได้ว่าครบเครื่องบู๊บุ๋นไล่สเตปจากความผ่อนคลายสู่ท่อนบรรเลงหนัก ๆ และโซโล่เพี้ยน ๆ ช่วงท้ายที่บุรุษหลังคีย์บอร์ดได้ซีนเด่นเหนือใครซึ่งตรงจุดนี้เองก็ต้อง note ไว้สักหน่อยว่าซาวนด์โดยรวมของวันนี้จัดว่าค่อนข้างดีเลยครับเคลียร์เป็นเม็ดไม่ทำให้ความซับซ้อนของดนตรีกลายเป็นความวุ่นวายระคายหูยกเว้นคีย์บอร์ดของ Peter Jones ที่อาจจะจม ๆ ไปหน่อยเวลาเครื่องดนตรีชิ้นอื่นกระหน่ำกันก่อนจะได้เผยร่างชัด ๆ ในท่อนที่ตั้งใจเปิดช่องให้เฉิดฉายจริง ๆ ในเพลงที่ว่านี่แหละ

ถัดจากนั้นเป็นช่วงพักยกจากความป่วนปั่นนำมาด้วย Earthrise ตัวแทนหนึ่งเดียวจาก Affinity (อัลบั้มโปรดของแอด) ที่ดึงจังหวะช้าและโดดเด่นด้วยเมโลดี้เชิงบวกสวยกระจ่างแน่นอนว่างานนี้เราได้สัมผัสกับลูกคอพลังเสียงสกิลและความนิ่งของฟรอนต์แมน Ross Jennings ผู้ขับร้องได้เนียนเป๊ะไม่ต่างจากในแผ่นไร้ซึ่งรอยด่างให้ตะขิดตะขวงใจเช่นเดียวกับในLovebiteแทร็ค “ป๊อป” ขนาดกระชับไลน์ร้องเมโลดิกจัดเฉกเช่น AOR ชั้นดีที่เขาเก็บได้เนียนทุกเม็ดแต่คราวนี้สังเกตได้ว่ามีแฟน ๆ หลายคนร้องตามได้ด้วยก็คงสมกับที่วงออกแบบเพลงนี้มาแล้วล่ะ

พักผ่อนสมองกันได้ไม่นาน ก็ถึงเวลากลับมาเพิ่มรอยหยักให้อวัยวะแห่งความคิดก้อนนี้อีกครั้งกับ Elephants Never Forgot หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของทั้งตัวอัลบั้มและโชว์ในคืนนี้กับลูกบ้าสุดหฤหรรษ์ราวรถไฟเหาะตีลังกากลางนรกละครสัตว์วิปลาส ซึ่งแน่นอนว่ามันคือเสน่ห์ที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักพวกเขาเมื่อครั้งแรกพบทำความรู้จัก ก็เลยไม่แปลกใจที่ทุกคนจะดูเอ็นจอยยิ้มไปกับความยากเย็นและความเพี้ยนนี้ตลอดความยาว 10 นาทีกว่าก่อนที่วงจะคลายปมวุ่นวายอีกครั้งด้วยเพลงช้าโทนหม่นอนธกาลอย่าง Canary Yellow ซึ่งรับหน้าที่เป็นตัวขั้นแสนกินอารมณ์ก่อนจะไปพบกับมหากาพย์ใหญ่ยักษ์ประจำโชว์ซึ่งคราวนี้พวกเขาเลือก Crystallized ความยาวเหยียบ 20 นาทีจากอัลบั้มรีเมคเดโม Restoration มาบรรเลงบรรลัย ซึ่งว่ากันตามตรงแทร็คนี้อาจไม่ได้มีลูกบ้าเพี้ยนหรือปั่นหัวอะไรมากมาย (ถ้าเทียบกับอีกหลายเพลงของวงอ่ะนะ) แต่มันคือการผจญภัยทางเสียงสุดเพลิดเพลินไปกับเซนส์แบบดนตรี Progressive Rock คลาสสิคอันเพริศแพร้วด้วยขบวนตัวโน้ตเลื้อยไต่พลิ้วไหวท่อนผ่อนหนักผ่อนเบาที่ตรึงอารมณ์ได้ดีเยี่ยมบิวด์ไปสู่ Climax ยิ่งใหญ่สร้างความประทับใจได้อย่างหมดจดไร้ข้อกังขา ก่อนที่พวกเขาจะโบกมืออำลาลงเวทีไปพร้อมรอยยิ้มแห่งความสุขทั้งจากคนดูและคนเล่น  

หลังจากเสียงเรียกร้องอังกอร์พอเป็นพิธีตามธรรมเนียมคอนเสิร์ตที่ดีงาม วงก็กลับมาขึ้นสเตจอีกครั้งกับสองเพลงแถม (ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ในเซ็ตลิสต์อยู่แล้ว 555) อย่าง Puzzle Box อีกหนึ่งแทร็คพลังงานสูงจากอัลบั้ม Vector ที่ lean มาทางโทนมืดหม่นและความเป็นเมทัลหนัก ๆ มากหน่อยครบเครื่องด้วยท่อนร้องติดหูและภาคบรรเลงดุเดือดปลุกประสาทให้ตื่นอีกครั้งหลังจากเคลิ้มไปกับ Epic ปิดเซ็ตหลักและแน่นอนต้องปิดท้ายด้วย Cockroach King เพลงซิกเนเจอร์ที่ถ้าวงไม่เล่นเหล่าสาวกเหนียวแน่นคงนอนไม่หลับซึ่งเมื่อทุกคนได้สดับกับฮาร์โมนี่สุดเพลินอารมณ์ขันกุ๊กกิ๊กในท่วงทำนองและฮุคสุดอลังการนั่นก็คงเพียงพอที่จะกลับบ้านหลับฝันดีในคืนนี้แล้วแม้ส่วนตัวจะยังแอบเสียดายนิด ๆ ที่ไม่ได้ฟังอะไรจากอัลบั้มสร้างชื่ออย่าง Aquarius และ Visions เลยสักเพลงก็ตาม โดยรวมโชว์คืนนี้จัดว่าทางวง delivered ได้ตามความคาดหวังอีกทั้งยังยังสนุกมาก ๆ คือไม่ใช่ความสนุกจากการได้นัวมอชหรือ interact อย่างเมามันกับทางวงอะไรแบบนั้นแต่เป็นความสนุกจากการดื่มด่ำ enjoy กับ musicianship สุดเฉียบของศิลปินฝีมือเยี่ยมผู้ซึ่งดู enjoy กับการบรรเลงดนตรีมาก ๆ เช่นกันซึ่งนาน ๆ ทีมีอะไรแบบนี้มาให้เสพกันบ้างก็ดีเหมือนกันครับหลากหลายดี สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณทางผู้จัดอีกครั้งที่กล้าและมุ่งมั่นทำให้งานนี้เกิดขึ้นมา และหวังว่าในอนาคตเราจะได้ชมอะไรแบบนี้อีกนะ

ITP TEAM

กองบรรณาธิการ Into The Pit Online

Related Posts

Hammersonic Festival 2024

Hammersonic Festival 2024

Fear Factory Live in Bangkok

Fear Factory Live in Bangkok

Review Brotherhood Brutality – 10 Years Anniversary  24 – 25 March 2024

Review Brotherhood Brutality – 10 Years Anniversary 24 – 25 March 2024

Angelus Apatrida Live in Bangkok

Angelus Apatrida Live in Bangkok

No Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *